เนื้อโคโพนยางคำหรือเนื้อไทยเฟรนซ์ (Thai-French Natural Beef)
หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า “โพนยางคำ” มาแล้ว หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า โพนยางคำคือ อะไรและแปลว่า อะไร จริงๆแล้วนั้น โพนยางคำ เป็นชื่อของหมู่บ้านในจังหวัดสกลนครที่เป็นที่ตั้งของสหกรณ์การเลี้ยงปศุ สัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จำกัด เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็นร้านอาหารหลายๆร้านใช้ชื่อ โพนยางคำ เพราะ ว่า สหกรณ์ไม่หวงลิขสิทธิ์ในการใช้ชื่อ ขอให้ทุกร้านใช้เนื้อโพนยางคำของจริงก็พอ เพราะเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทย แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีหลายๆร้านที่ไม่ใช้เนื้อโพนยางคำของแท้
เพราะฉะนั้น ไม่มีร้านอาหารไหนที่สามารถอ้างได้ว่า ตัวเองเป็นเจ้าของเนื้อโพนยางคำ จะมีก็แต่สหกรณ์เท่านั้นที่เป็นเจ้าของเนื้อโพนยางคำที่แท้จริง
เนื้อโคขุนโพนยางคำ หรือ เนื้อไทยเฟรนช์ (Thai-French Natural Beef) เป็นเนื้อโคคุณภาพสูงทัดเทียมเนื้อนำเข้า ที่ผลิตโดย สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จังหวัดสกลนคร โดยมีการดูแลควบคุมมาตรฐานการผลิตตั้งแต่การเลี้ยงโคของสมาชิก การจัดหาพันธุ์ การผลิตอาหารข้น การชำแหละและตัดแต่งตามหลักสากล การบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่ จนได้เนื้อโคที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย สำหรับผู้บริโภค เป็นต้นแบบของการรวมกลุ่มผู้ผลิตที่มีการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่การผลิต สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงระดับชุมชนอย่างแท้จริง
โคขุนโพนยางคำ เป็นลูกโคผสมที่เลื้ยงในจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร หนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง โดยสมาชิกของสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลางโพนยางคำ จำกัด การขุนจะขังโคไว้ในคอกตลอด เพื่อไม่ให้โคได้ออกกำลัง อาหารที่ให้จะเป็นอาหารข้นและกากน้ำตาลเป็นหลัก เพื่อให้โคสร้างเนื้และไขมันแทรก ในเนื้อโดยไม่ใช้ฮอร์โมนและสารเร่งโต ทำให้เนื้อมีความนุ่มและรสชาติอร่อยเป็นที่มาของชื่อ "โคขุนโพนยางคำ" หรือที่รู้จักกันอีกในชื่อเนื้อไทย-ฝรั่งเศษ " Thai-FRENCH Beef " (T.F) พ่อพันธุ์ จะใช้น้ำเชื้อสายพันธุ์ยุโรปสายเลือดแท้ 100 % เพื่อใช้ผสมเทียมได้แก่ พันธุ์ซาโรเลส์ (Charoiais) ถิ่นกำเนิดปรเทศฝรั่งเศส
พันธุ์ซิมเมนทอล (Simmental) ถิ่นกำเนิดประเทศสวิสเชอร์แลนด์
พันธุ์ลิมูซิน (Limusin) ถิ่นกำเนิดประเทศฝรั่งเศส
แม่พันธุ์ เป็นโคลูกผสมพันธุ์พื้นเมืองที่ทนทานต่อสภาพอากาศและพันธุ์บราห์มันที่มีโครงสร้างใหญ่
โคลูกผสม ที่ได้จะเหมาะสำหรับเลี้ยงในสภาพภูมิอากาศของไทยมีลักษณะพันธุ์ดังนี้
โคพื้นเมือง 25%
โคบราห์มัน 25%
โคสายพันธุ์ยุโรป 50%
โคที่จะขุนต้องมีอายุ 2 ปีขึ้นไป ต้องมีการถ่ายพยาธิก่อนขุนและก่อนนำมาชำแหละ 3 เดือน ใช้เวลาขุนอย่างน้อย 8 เดือนขึ้นไปจึงนำมาชำแหละ แล้วบ่มซาก (Aging) ในห้องเย็นที่อุณหภูมิ 3 องศา อย่างน้อย 7 วันก่อนจะขนส่งโดยรถห้องเย็นมาที่ร้านขายเนื้อของสหกรณ์ที่กรุงเทพฯ และเก็บรักษาเนื้อในห้องเย็นที่อุณหภูมิไม่เกิน 3 องศา
เนื้อโคขุนโพนยางคำ จึงเป็นเป็นเนื้อโคธรรมชาติ (Natural Beef) ที่ปราศจากฮอร์โมนหรือสารเร่งการเจริญเติบโต ตลอดจนยาปฏิชีวนะทุกชนิด (Free from Hormones or Growth Promotants & Antibiotics) และมีการขึ้นทะเบียนเลี้ยงขุนโดยสมาชิกสหกรณ์ฯโพนยางคำโดยมีการวางระบบการ ผลิตที่ควบคุม และกำกับดูแลครบวงจร ตั้งแต่ลูกโคเกิด การเลี้ยงดู การเลี้ยงขุน จนถึงกระบวนการผลิตเป็นเนื้อโคขุน และสามารถตรวจสอบได้ตลอดวงจรการผลิต (Traceability) ทำให้ได้เนื้อโคที่มีความนุ่มมาก และมีไขมันแทรกในกล้ามเนื้อ (marbling) ได้ผ่านขั้นตอนการบ่มเนื้อ ภายใต้อุณหภูมิการเก็บรักษาเนื้อในห้องเย็น 0 – 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 7-14 วัน ก่อนการจำหน่าย มีคุณภาพทัดเทียมกับเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ สะอาด ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
ในช่วงเริ่มต้นการทำตลาดของสหกรณ์ (ตั้งแต่ปี 2524) สหกรณ์ฯ ได้วางเป้าหมายการผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพสูง เพื่อทดแทนการนำเข้าเนื้อโคจากต่างประเทศ โดยสหกรณ์ฯ พยายามมุ่งเป้าไปยังตลาดประเภทซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับบน ทำให้ ลูกค้าส่วนใหญ่ของ เนื้อโคขุนโพนยางคำ หรือ ในนาม Thai-French Natural Beef เป็นผู้บริโภคชาวต่างชาติ เชฟตามโรงแรม หรือร้านอาหารชื่อดัง (เช่น โชคชัยสเต็ก) แต่จะไม่ค่อยมีการกล่าวถึงที่มาของเนื้อที่ใช้ จนในระยะหลัง เริ่มมีการนำ เนื้อโคขุนโพนยางคำ มาใช้ในร้านอาหารประเภท ปิ้งย่าง จิ้มจุ่ม หรือชาบู ทำให้ เนื้อโคขุนโพนยางคำ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ส่งผลให้มีร้านอาหารที่มีคำว่า “โพนยางคำ” อยู่ในชื่อ เกิดขึ้นอย่างมากมายในกรุงเทพ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ ซื้อเนื้อจากสหกรณ์ แต่ก็มีบางร้านที่ไม่ได้ใช้เนื้อของสหกรณ์ หรือใช้เนื้ออย่างอื่นผสม ทำให้เกิดความไม่แน่ใจในคุณภาพเนื้อที่ขาย ตามร้านต่างๆ
หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า “โพนยางคำ” มาแล้ว หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า โพนยางคำคือ อะไรและแปลว่า อะไร จริงๆแล้วนั้น โพนยางคำ เป็นชื่อของหมู่บ้านในจังหวัดสกลนครที่เป็นที่ตั้งของสหกรณ์การเลี้ยงปศุ สัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จำกัด เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็นร้านอาหารหลายๆร้านใช้ชื่อ โพนยางคำ เพราะ ว่า สหกรณ์ไม่หวงลิขสิทธิ์ในการใช้ชื่อ ขอให้ทุกร้านใช้เนื้อโพนยางคำของจริงก็พอ เพราะเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทย แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีหลายๆร้านที่ไม่ใช้เนื้อโพนยางคำของแท้
เพราะฉะนั้น ไม่มีร้านอาหารไหนที่สามารถอ้างได้ว่า ตัวเองเป็นเจ้าของเนื้อโพนยางคำ จะมีก็แต่สหกรณ์เท่านั้นที่เป็นเจ้าของเนื้อโพนยางคำที่แท้จริง
เนื้อโคขุนโพนยางคำ หรือ เนื้อไทยเฟรนช์ (Thai-French Natural Beef) เป็นเนื้อโคคุณภาพสูงทัดเทียมเนื้อนำเข้า ที่ผลิตโดย สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จังหวัดสกลนคร โดยมีการดูแลควบคุมมาตรฐานการผลิตตั้งแต่การเลี้ยงโคของสมาชิก การจัดหาพันธุ์ การผลิตอาหารข้น การชำแหละและตัดแต่งตามหลักสากล การบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่ จนได้เนื้อโคที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย สำหรับผู้บริโภค เป็นต้นแบบของการรวมกลุ่มผู้ผลิตที่มีการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่การผลิต สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงระดับชุมชนอย่างแท้จริง
โคขุนโพนยางคำ เป็นลูกโคผสมที่เลื้ยงในจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร หนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง โดยสมาชิกของสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลางโพนยางคำ จำกัด การขุนจะขังโคไว้ในคอกตลอด เพื่อไม่ให้โคได้ออกกำลัง อาหารที่ให้จะเป็นอาหารข้นและกากน้ำตาลเป็นหลัก เพื่อให้โคสร้างเนื้และไขมันแทรก ในเนื้อโดยไม่ใช้ฮอร์โมนและสารเร่งโต ทำให้เนื้อมีความนุ่มและรสชาติอร่อยเป็นที่มาของชื่อ "โคขุนโพนยางคำ" หรือที่รู้จักกันอีกในชื่อเนื้อไทย-ฝรั่งเศษ " Thai-FRENCH Beef " (T.F) พ่อพันธุ์ จะใช้น้ำเชื้อสายพันธุ์ยุโรปสายเลือดแท้ 100 % เพื่อใช้ผสมเทียมได้แก่ พันธุ์ซาโรเลส์ (Charoiais) ถิ่นกำเนิดปรเทศฝรั่งเศส
พันธุ์ซิมเมนทอล (Simmental) ถิ่นกำเนิดประเทศสวิสเชอร์แลนด์
พันธุ์ลิมูซิน (Limusin) ถิ่นกำเนิดประเทศฝรั่งเศส
แม่พันธุ์ เป็นโคลูกผสมพันธุ์พื้นเมืองที่ทนทานต่อสภาพอากาศและพันธุ์บราห์มันที่มีโครงสร้างใหญ่
โคลูกผสม ที่ได้จะเหมาะสำหรับเลี้ยงในสภาพภูมิอากาศของไทยมีลักษณะพันธุ์ดังนี้
โคพื้นเมือง 25%
โคบราห์มัน 25%
โคสายพันธุ์ยุโรป 50%
โคที่จะขุนต้องมีอายุ 2 ปีขึ้นไป ต้องมีการถ่ายพยาธิก่อนขุนและก่อนนำมาชำแหละ 3 เดือน ใช้เวลาขุนอย่างน้อย 8 เดือนขึ้นไปจึงนำมาชำแหละ แล้วบ่มซาก (Aging) ในห้องเย็นที่อุณหภูมิ 3 องศา อย่างน้อย 7 วันก่อนจะขนส่งโดยรถห้องเย็นมาที่ร้านขายเนื้อของสหกรณ์ที่กรุงเทพฯ และเก็บรักษาเนื้อในห้องเย็นที่อุณหภูมิไม่เกิน 3 องศา
เนื้อโคขุนโพนยางคำ จึงเป็นเป็นเนื้อโคธรรมชาติ (Natural Beef) ที่ปราศจากฮอร์โมนหรือสารเร่งการเจริญเติบโต ตลอดจนยาปฏิชีวนะทุกชนิด (Free from Hormones or Growth Promotants & Antibiotics) และมีการขึ้นทะเบียนเลี้ยงขุนโดยสมาชิกสหกรณ์ฯโพนยางคำโดยมีการวางระบบการ ผลิตที่ควบคุม และกำกับดูแลครบวงจร ตั้งแต่ลูกโคเกิด การเลี้ยงดู การเลี้ยงขุน จนถึงกระบวนการผลิตเป็นเนื้อโคขุน และสามารถตรวจสอบได้ตลอดวงจรการผลิต (Traceability) ทำให้ได้เนื้อโคที่มีความนุ่มมาก และมีไขมันแทรกในกล้ามเนื้อ (marbling) ได้ผ่านขั้นตอนการบ่มเนื้อ ภายใต้อุณหภูมิการเก็บรักษาเนื้อในห้องเย็น 0 – 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 7-14 วัน ก่อนการจำหน่าย มีคุณภาพทัดเทียมกับเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ สะอาด ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
ในช่วงเริ่มต้นการทำตลาดของสหกรณ์ (ตั้งแต่ปี 2524) สหกรณ์ฯ ได้วางเป้าหมายการผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพสูง เพื่อทดแทนการนำเข้าเนื้อโคจากต่างประเทศ โดยสหกรณ์ฯ พยายามมุ่งเป้าไปยังตลาดประเภทซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับบน ทำให้ ลูกค้าส่วนใหญ่ของ เนื้อโคขุนโพนยางคำ หรือ ในนาม Thai-French Natural Beef เป็นผู้บริโภคชาวต่างชาติ เชฟตามโรงแรม หรือร้านอาหารชื่อดัง (เช่น โชคชัยสเต็ก) แต่จะไม่ค่อยมีการกล่าวถึงที่มาของเนื้อที่ใช้ จนในระยะหลัง เริ่มมีการนำ เนื้อโคขุนโพนยางคำ มาใช้ในร้านอาหารประเภท ปิ้งย่าง จิ้มจุ่ม หรือชาบู ทำให้ เนื้อโคขุนโพนยางคำ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ส่งผลให้มีร้านอาหารที่มีคำว่า “โพนยางคำ” อยู่ในชื่อ เกิดขึ้นอย่างมากมายในกรุงเทพ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ ซื้อเนื้อจากสหกรณ์ แต่ก็มีบางร้านที่ไม่ได้ใช้เนื้อของสหกรณ์ หรือใช้เนื้ออย่างอื่นผสม ทำให้เกิดความไม่แน่ใจในคุณภาพเนื้อที่ขาย ตามร้านต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น